ไขข้อสงสัยกับ ABV และ Proof ต่างกันอย่างไร?
ไม่ว่าจะ เหล้า เบียร์ หรือ ไวน์ ในขณะที่กำลังเลือกเครื่องดื่มสุดโปรดของเราอยู่นั้น สิ่งแรก ๆ ที่เรามักชอบทำกัน คือการดู “ปริมาณแอลกอฮอล์” หรือ ที่คุ้นชื่อกันว่า “ดีกรี” แต่เคยสังเกตุไหมครับ ว่าบางขวด บางยี่ห้อกลับเขียนต่างออกไป ไหนจะ ABV ไหนจะ Proof ซึ่งทั้งหมดนี้มีความหมายซ่อนอยู่มากกว่าที่คิด จะมีอะไรบ้าง LIQ9.ASIA รวมคำตอบมาไว้ให้แล้วครับ
| AVB (Alcohol By Volume)
ABV (เอบีวี) ย่อมาจาก Alcohol By Volume หรือ ปริมาณแอลกอฮอล์ นั่นเอง คิดเป็นเปอร์เซนต์ของปริมาตรเครื่องดื่ม บางทีอาจถูกใช้แทนด้วย ALC x.x % VOL. ซึ่งมีความหมายเดียวกัน โดยปัจจุบันเป็นหน่วยสากลที่ใช้ในการวัดปริมาณแอลกอฮอล์ทั่วโลกนั่นเอง
| PROOF
Proof (พรูฟ) เป็นหน่วยวัดแอลกอฮอล์ของประเทศอังกฤษ ที่ในสมัยก่อนใช้กันอย่างแพร่หลาย จนติดปากหลายคน จนถึงถึงวันนี้ ซึ่งคำว่า Proof มีความหมายเดียวกับ ABV แต่มีวิธีคิดปริมาณต่างกันเล็กน้อย คือ
1. ถ้าจะหาค่า Proof จาก ABV - ให้นำจำนวน Proof มาหารสอง จะได้ค่า ABV
2. ถ้าจะหาค่า ABV จาก Proof - ให้นำจำนวน ABV คูณสอง จะได้ค่า Proof
เช่น วิสกี้ Whisky (วิสกี้) ขวดนี้มี ABV 40% เท่ากับว่าวิสกี้ขวดนี้ มี 80 Proof
หรือ Rum (รัม) ขวดนี้ 100 Proof ก็จะมี ABV อยู่ที่ 50% นั่นเองครั
ในประเทศไทย อาจจะคุ้นกับว่า Degree (ดีกรี) ที่สุด ซึ่งในความหมายนั้น หมายถึง ABV นั่นเอง และไม่ใช่ว่าแอลกอฮอล์ทุกประเภทสามารถรับประทานได้
เพราะสุราและแอลกอฮอล์ที่สัมผัสร่างกายได้ ต้องเป็น Ethyl Alcohol (เอทิลแอลกอฮอล์) เท่านั้น ถ้าเป็น Methyl alcohol (เมทิลแอลกอฮอล์) ถือว่าเป็นสารเคมีที่เป็นอันตรายต่อร่างกายถึงชีวิตเลยทีเดียว