โดยชื่อของ Bombay Sapphire (บอมเบย์ แซฟไฟร์) ได้รับแรงบันดาลใจมาจาก Sapphire (ไพลิน) น้ำหนักมากถึง 182 กะรัต ที่ชื่อว่า “Star of Bombay” ถูกค้นพบที่ศรีลังกาและครอบครอง โดย Douglas Fairbanks (ดัคกลาส แฟร์แบงค์) ผู้กำกับชื่อดังช่วงปี 1920 และได้มอบ Star of Bombay เป็นของขวัญ ให้กับ Mary Pickford (แมรี่ พิคฟอร์ด) ภรรยาของเขาที่ชื่นชอบค็อกเทลอย่างที่สุด (ชอบขนาดที่ว่า จ้างคนมาออกแบบค็อกเทลชื่อตัวเอง ที่ชื่อว่า Mary Pickford)

ซึ่งต่อมาไพลินดังกล่าว ได้กลายมาเป็นแรงบันดาลใจ ในการผลิตทั้งรูปแบบขวดทรงเหลี่ยม สีฟ้าอ่อนของขวด และพระบรมฉายาลักษณ์ของ Queen Victoria (ควีนวิคตอเรีย) บนฉลาก เป็นการเปรียบเปรยว่าของที่ดีสุด ต้องอยู่กับคนที่เหมาะสมที่สุดเท่านั้น

วิธีการกลั่นแบบ Vapour Infusion ของ Bombay Sapphire (บอมเบย์ แซฟไฟร์) จะแตกต่างจากการกลั่น Gin (จิน) ทั่วไป คือ โดยปกติจะทำโดยการต้มสมุนไพรลงในหม้อกลั่นโดยตรง แต่วิธี Vapour Infusion ของ Bombay Sapphire จะเริ่มจากทำการแยกสมุนไพร 10 ชนิด ไว้ในตะกร้าทองแดง

และเมื่อไอน้ำความร้อนลอยขึ้นมา เหล้าก็จะซึมซับรสและกลิ่นที่โดดเด่นของสมุนไพรเข้าไป ทำให้เกิดเป็นรสชาติที่นุ่มนวลและกลมกล่อม ก่อนที่จะบรรจุลงขวดสีฟ้าอ่อน ทั้งหมดนี้คือเอกลักษณ์ที่หาได้เฉพาะ Bombay Sapphire เท่านั้น

โดยสมุนไพร 10 ชนิดนี้ได้แก่ Cassia Bark (อบเชย), Angelica Root (รากโกฐสอ), Almonds (อัลมอนด์), Orris (รากไม้ออร์ริส), Liquorice (รากชะเอมเทศ), Cubeb Berries (ดีปลี), Coriander seed (เมล็ดผักชี), Grains of Paradise (พริกไทย), Lemon Peel (ผิวมะนาว) และ Juniper Berries (ผลจูนิเปอร์)

และในการลิ้มลองรสชาติของ Bombay Sapphire ที่แท้จริง ขั้นตอนง่าย ๆ มีเพียงผสมกับ Tonic Water (โทนิค) แล้วตกแต่งด้วยเลมอน เท่านี้ก็เพียงพอแล้วล่ะครับ