Gin & Tonic จากยารักษาโรค สู่ Classic Cocktail ยอดนิยม
Gin & Tonic (จิน แอนด์ โทนิค) เครื่องดื่มที่คุ้นเคยของใคร หลาย ๆ คน และยังถือเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมของคนทั่วโลกอีกด้วย แต่ทราบหรือไม่ว่า ในสมัยก่อนนั้น ส่วนผสมของดริ๊งก์แก้วนี้มีบทบาทสำคัญในฐานะยารักษาโรคระบาด ก่อนที่จะพัฒนาและโด่งดัง กลายเป็นเครื่องดื่มติดปากของใครหลาย ๆ คน
เรื่องราวของ Gin & Tonic เริ่มต้นตั้งแต่ การค้นพบในปี ค.ศ.1700 ของกองทัพ British East India Company หรือบริษัทการค้าอินเดียตะวันออก ของชาวอังกฤษในประเทศอินเดีย โดย ในสมัยนั้นประเทศอินเดียต้องเผชิญกับไข้มาเลเรีย ที่คอยคร่าชีวิตทหารอังกฤษจำนวนมาก ก่อนที่จะมีการค้นพบว่า Quinine (ควินิน ส่วนประกอบหลักของโทนิค) สามารถใช้ป้องกันโรคมาเลเรียได้ ซึ่ง ณ ตอนนั้น ยาควินินมีรสชาติที่ขมมาก จนหลายคนทำใจดื่มไม่ไหว ต้องหาอย่างอื่นมาผสมด้วย
ด้วยเหตุนี้ ในช่วงต้นศตวรรษที่ 19 ทหารอังกฤษจึงหาวิธีทั้งการผสมน้ำ เพิ่มน้ำตาล และเติมน้ำมะนาว ลงไปผสมกับ Quinine โดยได้ตั้งชื่อว่า Tonic Water (โทนิค วอเตอร์) เพื่อทำให้สามารถดื่มได้ง่ายขึ้น และยิ่งถูกปากกว่าเดิม เมื่อได้มีการผสม Gin (จิน) เข้าไปด้วย จนกลายเป็น Gin & Tonic ตั้งแต่ตอนนั้น เรียกว่าทั้งถูกปากหลายคน ดื่มง่ายแถมยังป้องกันโรคร้ายอีกด้วย กลายเป็นเครื่องดื่มยอดนิยมตั้งแต่ตอนนั้นเป็นต้นมา
ในส่วนโทนิคในปัจจุบันนั้น ไม่ได้มีส่วนผสมของยาควินินมากเหมือนแต่ก่อน ถ้าให้พูดอีกหย่างคือแทบไม่เหลือคุณสมบัติทางยาแล้ว อีกทั้งยังถูกทำให้มีรสชาติหวานขึ้น ไม่ขมฉกาจเหมือนแต่ก่อน แต่ยังคงรสชาติเดิมของโทนิคแบบดั้งเดิมเอาไว้
ปัจจุบัน Gin & Tonic กลายเป็นเครื่องดื่มเรียกได้ว่ามีกันทุกบาร์ อีกทั้งเป็นแก้วประจำที่ใครหลาย ๆ คนต้องสั่งมาดื่ม นอกจากนี้ยังเคยมีบทบาทใน Pop Culture สมัยใหม่ อย่างการปรากฎชื่อ Gin & Tonic ในเพลง Supersonic ของวง British Rock ระดับตำนาน Oasis
ประวัติของ Gin & Tonic นี่ไม่ใช่เล่น ๆ เหมือนกันใช่ไหมละครับ แต่บอกเลยว่าวิธีการทำ Gin & Tonic นี่ไม่ซับซ้อนเหมือนประวัติเลย เพียงแค่ 3 ขั้นตอน ก็พร้อมเสิร์ฟคลาสสิคค็อกเทลระดับโลกแล้ว เขาทำกันอย่างไรต้องตามมาดูกันครับ
| GIN & TONIC
ส่วนผสม
- Gin 60 มล.
- Tonic Water
- มะนาว 1 ชิ้น (แบบฝานหรือซีกก็ได้)
วิธีทำ
1. ริน Gin ลงในแก้วที่มีน้ำแข็ง
2. ริน Tonic Water
3. บีบมะนาวตามลงไป แล้วตกแต่งด้วยชิ้นมะนาว
*สามารถปรับสัดส่วนของ Gin และ Tonic Water ได้ตามชอบ*