ทุกวันนี้มีร้านอาหารญี่ปุ่นเปิดใหม่มากมาย ทำให้นักกินนักดื่มทั้งหลาย มีตัวเลือกในการสังสรรค์จากวันทำงานอันเหน็ดเหนื่อย กับเพื่อนสนิทหรือคนในครอบครัว ในร้านอาหารญี่ปุ่น คนไทยส่วนมากมักคุ้นเคยในการเลือกเมนูอาหารญี่ปุ่นจานโปรด แต่หลาย ๆ คนน่าจะหนักใจ เมื่อต้องการเลือกดื่ม “สาเกญี่ปุ่น” ให้ได้รสชาติที่โดนใจ

เนื่องจากเมื่อเปิดเมนูเครื่องดื่มในส่วนของสาเกนั้น มีแต่ศัพท์ภาษาญี่ปุ่นที่ล้วนแต่ทำให้ปวดหัวจนทำให้ไม่กล้าตัดสินใจที่จะสั่ง อย่างเช่น Junmai Daiginjo (จุนไม ไดกินโจ), Karakuchi (คะระคุจิ), Nama (นามะ), Genshu (เก็นชู) และ Yamada Nishiki (ยะมะดะ นิชิกิ) ศัพท์เหล่านี้เป็นคำเฉพาะที่บอกถึงประเภทของสาเก ปริมาณน้ำตาล พันธุ์ข้าวสาเก และวิธีการทำสาเกแบบเฉพาะ ถ้าเป็นในโลกของไวน์ พันธุ์องุ่นจะเป็นตัวบอกรสชาติและลักษณะของไวน์ได้คร่าวๆ สำหรับสาเกนั้น ประเภทของสาเกแต่ละชนิดเป็นตัวบอกรสชาติและลักษณะของสาเก ได้โดยสังเขป

สาเกแต่ละประเภทนั้นมีลักษณะและรสชาติแตกต่างกัน สำหรับผู้เริ่มดื่มสาเกสิ่งที่ควรจะทราบเบื้องต้นคือ ระดับความเข้มข้นของกลิ่น และความเข้มข้นของรสชาติ ของสาเกแต่ละประเภท

Junmai Daiginjo (จุนมัยไดกินโจ) และ Daiginjo (ไดกินโจ)

สาเกระดับอัลตร้าพรีเมี่ยม ที่ข้าวถูกขัดสีออกจนเหลือ 50% หรือน้อยกว่าจากขนาดเดิม ความแตกต่างระหว่างจุนมัย ไดกินโจและไดกินโจคือวัตถุดิบที่ใช้ทำสาเก สำหรับจุนมัยไดกินโจวัตถุดิบที่มีเพียง ข้าว กับ น้ำ (คำว่าจุนมัยหมายถึง ข้าวอย่างเดียว) ในขณะที่ ไดกินโจ นอกจากข้าวและน้ำแล้วแอกอฮอล์กลั่นถูกเติมลงไปในปริมาณที่ไม่เกินกำหนด เพื่อเพิ่มความซับซ้อนและความหลากหลาย ทั้งกลิ่นและรสชาติของสาเก ภาพด้านล่างแสดงถึงคุณลักษณะของสาเกทั้งสองประเภทนี้

Junmai Ginjo (จุนมัยกินโจ) และ Ginjo (กินโจ)

สาเกระดับซุปเปอร์พรีเมี่ยม ที่ข้าวถูกขัดสีจนเหลือ 60% หรือน้อยกว่าจากขนาดเดิม ถ้าสาเกถูกทำขึ้นโดยใช้วัตถุดิบเพียงแค่ข้าวและน้ำ สาเกจะถูกเรียกว่า จุนมัยกินโจ แต่เมื่อแอลกอฮอล์ถูกใส่เพิ่มลงไป ในปริมาณที่ไม่เกินจากที่กำหนดไว้ สาเกนั้นจะถูกเรียกว่า กินโจ ภาพด้านล่างแสดงถึงคุณลักษณะของสาเกทั้งสองประเภทนี้

Junmai (จุนมัย) และ Honjozo (ฮนโซโจ)

ฮนโจโซเป็น สาเกระดับพรีเมี่ยมที่ข้าวถูกขัดสีออกจนเหลือ 70% หรือน้อยกว่าจากขนาดเดิม และมีการเติมแอลกอฮอล์ลงไปไม่เกินในปริมาณที่ถูกกำหนดไว้ เพื่อทำให้ดื่มง่ายและมีกลิ่นที่หลากหลายมากขึ้นในขณะที่จุนมัยเป็นสาเกระดับ พรีเมี่ยมที่ใช้วัตถุดิบเพียงข้าวและน้ำเท่านั้น โดยไม่มีการกำหนดปริมาณการขัดสีข้าว ภาพด้านล่างแสดงตัวอย่างคุณลักษณะของสาเกทั้งสองประเภท

Futsuu-Shu (ฟุทซึ-ชู)

ฟุทซึ-ชู หรือสาเกธรรมดา สาเกประเภทนี้สามารถใส่วัตถุดิบชนิดอื่นเพิ่มเติมลงไปในสาเกได้อาทิเช่น น้ำตาล, กรด, โมโนโซเดียมกลูตาเมตและอื่นๆ วัตถุดิบเหล่านี้ถูกเพิ่มลงไประหว่างการทำสาเก ทำให้รสชาติสาเกมีความสมดุล หรือใส่แอลกอฮอล์จำนวนมากลงไปในสาเก เพื่อเพิ่มผลผลิต ถึงอย่างไรก็ดียังมีสาเกประเภท Futsuu-Shu (ฟุทซึ-ชู) ที่มีคุณภาพและรสชาติดีอยู่มากมายในตลาด ภาพด้านล่างแสดงถึงคุณลักษณะของสาเกประเภทนี้

สำหรับผู้ที่สนใจจะลองความแตกต่างของ Sake (สาเก) ในแต่ละแบบ สามารถเข้าไปสั่งซื้อได้ที่ LIQ9.ASIA ได้เลยครับ

คลิ๊ก เพื่อเลือกชมสินค้า Sake (สาเก) ทั้งหมด