The Single Malt Masterclass เมื่อโลกของ Single Malt ไม่ยากอย่างที่คิด

9 ตุลาคม 2019
The Single Malt Masterclass เมื่อโลกของ Single Malt ไม่ยากอย่างที่คิด
Posted in: Recommended Liquors
More from this author
By MR.LIQ9

สำหรับคนที่รัก วิสกี้ (Whisky) บางราย การดื่ม ซิงเกิลมอลต์ (Single Malt) นั้นอาจจะฟังดูเป็นอะไรที่ซับซ้อน หรือยากจะเข้าถึง จนกลายเป็นกิจกรรมการดื่มของนักดื่มชั้นเซียนไปเลย แต่เราขอยืนยันอย่างหนักแน่นว่า… Single Malt เข้าถึงง่ายกว่าที่คิด

และเพื่อยืนยันคำพูดนี้ เราจึงขอเชิญชวนนักดื่ม ทั้งผู้ที่คุ้นเคยเป็นอย่างดี หรือนักดื่มหน้าใหม่ที่สนใจจะก้าวเข้าสู่โลกของ Single Malt เข้าสู่กิจกรรมลิ้มรสชาติสุดพิเศษอย่าง The Single Malt Masterclass


สำหรับกิจกรรมนี้ ทางทีมงาน LIQ9 ก็ได้มีโอกาสเข้าร่วม เมื่อวันที่ 25 กันยายน 2562 ณ Charater Cigar & Whisky Bar โรงแรม Compass Skyview Hotel

ซึ่งจัดขึ้นโดย เดอะซิงเกิลตัน (The Singleton) แบรนด์ ซิงเกิลมอลต์ สก็อต วิสกี้ (Single Malt Scotch Whisky) จากเขต สเปย์ไซด์ (Speyside) ที่ก่อตั้งเมื่อปี 1897 ซึ่งถือว่าเป็นแบรนด์ Single Malt อันดับ 1 ของโลกเลยทีเดียว ก่อนจะพูดถึงกิจกรรมนี้ เรามาทำความรู้จักกับ The Singleton สักเล็กน้อยกันก่อน


Dufftown Distillery

The Singleton เป็นแบรนด์ที่มีความเป็นมาอันยาวนานอีกแบรนด์ของ สก็อตแลนด์ (Scotland) ตั้งอยู่ในเขต Speyside ก่อตั้งเมื่อปี 1897 ชื่อของโรงกลั่นนี้คือ Glendullan โดยเป็นโรงกลั่นโรงสุดท้ายจากทั้งหมด 7 โรง ที่ก่อตั้งขึ้นใน ดัฟทาวน์ (Dufftown) โดยเครื่องจักรที่ใช้ในการผลิตนั้น ขับเคลื่อนด้วยกังหันน้ำ และกระแสน้ำในแม่น้ำ Fiddich ซึ่งการกลั่น Whisky ก็ได้เริ่มต้นขึ้นครั้งแรกในปี 1898 ซึ่งหลังจากสร้าง Single Malt ตัวแรกได้สำเร็จ ก็ถูกร่ำลือว่าเป็น Whisky ตัวโปรดของพระเจ้าเอ็ดเวิร์ดที่ 7

แต่ในช่วงตั้งแต่ 1919 - 1930 ได้ถูกเปลี่ยนมือไปหลายต่อหลายบริษัทจากปัญหาหลาย ๆ ประการ จนเมื่อเข้าสู่ช่วงสงครามโลกในปี 1940 ก็ได้ถูกปิดไปเหมือนกับโรงกลั่นอื่น ๆ และกลับมาเปิดอีกครั้งในปี 1947 โดยเครื่องกลส่วนใหญ่ยังทำงานด้วยกังหันน้ำเช่นเดิม 

สำหรับโรงกลั่นที่ผลิต Single Malt ของ The Singleton นั้น มีทั้งหมด 4 แห่งด้วยกัน คือ Glendullan, Dufftown, Auchroisk และ Glen Ord โดยจะกำกับท้ายชื่อรุ่นด้วยชื่อของโรงกลั่นที่ผลิต

 
The Single Malt Masterclass
ในด้านของกิจกรรม Masterclass นี้ เราขอบอกเลยว่า แม้แต่มือใหม่ที่ไม่เคยดื่ม Whisky มาก่อน ก็สามารถเพลิดเพลินและเข้าถึงเรื่องราวได้ เพราะตั้งแต่ช่วงแรกของกิจกรรม จะเริ่มตั้งแต่ประวัติและความเป็นมาของ Whisky, การแบ่งชนิดของ Whisky ไปจนถึงคาแรคเตอร์แบบต่าง ๆ ตามแหล่งการผลิต
 
Single Malt Aroma Sample
Single Malt Region

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องกลิ่น, รสชาติ และสัมผัสตอนท้าย ที่เพียงแค่ผลิตในพื้นที่ ๆ ที่ต่างกัน, สัดส่วนของธัญพืชที่ใช้ หรือแม้แต่การบ่มในถัง กลับให้เอกลักษณ์ที่แตกต่างได้หลากหลายเลยทีเดียว

เช่นในเขต Highland ที่โดดเด่นในด้านคาแรคเตอร์ของไม้และเครื่องเทศที่จัดจ้าน

Low Land ที่เปรียบเสมือนจุดศูนย์กลางสำคัญของประเทศ แต่กลับมีโรงกลั่นเพียง 2 โรงเท่านั้น Whisky ของเขตนี้มีเอกลักษณ์ทีสดชื่นเป็นสำคัญ

Isle of Skye ดินแดนที่รกร้างและห่างไกลอีกแห่งของประเทศ ที่ขึ้นชื่อในคาแรคเตอร์กลิ่นอายของทะเล และกลิ่นควัน ที่ได้จากการคั่วข้าวมอลต์ด้วยถ่านพีต

และ Speyside แหล่งสวรรค์ของ Whisky เป็นพื้นที่ ๆ มีโรงกลั่นตั้งอยู่มากที่สุดของ Scotland โดดเด่นในด้านกลิ่นและรสสัมผัสของผลไม้ 


Single Malt Pairing

และอีกกิจกรรมที่เชื่อว่าหลาย ๆ คนอาจจะไม่เคยทราบ กับการจับคู่อาหาร (Food Pairing) กับ Single Malt Whisky แบบต่าง ๆ ซึ่งหลาย ๆ คนอาจจะเคยเห็นแต่การจับคู่ไวน์กับอาหารเท่านั้น

แต่การจับคู่อาหารกับ Whisky นั้นได้นำเสนอเมนูอาหารสเปนทั้ง 4 เพื่อนำมาจับคู่ด้วย โดยเริ่มเรียงจากรสชาติเบาสุด ไปหาเมนูที่มีรสชาติเข้มที่สุด เพื่อให้รับรู้รสชาติที่แตกต่างก่อน และหลังการรับประทานคู่กับ Single Malt อย่างเต็มที่ โดยไม่ให้รสชาติทับกันจนไปผสมปนกับเมนูอื่น

อย่างเช่นเมนูแรก Tartare de Atun (ขวาสุด) เป็นทูน่าสดปรุงรส รับประทานกับซอสน้ำมันมะกอก ดื่มคู่กับ Whisky ตัวที่เบาที่สุดอย่าง Glenkinchie 12 Year Old จากแถบ Low Land ที่เข้ากับรสชาติของน้ำมันมะกอกที่เป็นเครื่องปรุงหลัก และความเปรี้ยวของมะนาวได้เป็นอย่างดี ทำให้รู้สึกกลมกล่อมเมื่อจิบ Whisky ตามเข้าไป

เมนูถัดมา เป็น Gambas al ajilo (เมนูที่ 3 จากทางขวา) กุ้งแม้น้ำย่างกับซอสเครื่องเทศสไตล์สเปน สำหรับเมนูรสเค็ม ๆ เบาอย่างกุ้ง กับความจัดจ้านของเครื่องเทศนี้ กับ The Singleton of Dufftown 12 Years Old ช่วยให้ดึงรสหวานออกมาได้ดี ชูรสชาติความของเนื้อกุ้งออกมาให้ชัดเจน

จนที่มีรสชาติหนักสุดอย่าง Costillas Asadas (เมนูที่สองจากทางขวา) ซี่โครงหมูบาร์บีคิวรมควันกับซอสรสเปรี้ยวหวาน Talisker 10 Years Old จึงเหมาะสมที่สุดสำหรับจานนี้ ด้วยกลิ่นของควัน และความหนักแน่นของเนื้อซี่โครงหมูนี้

จบด้วยของหวานอย่าง Churros (ซ้ายสุด) ขนมแป้งทอดแบบสเปน เสิร์ฟคู่กับซอสช็อคโกแลตหวานมันเข้มข้น กับ Dalwhinnie 15 Years Old ที่มีความหวานหอม ทำให้ของหวานที่มีรสเข้มข้นนี้มีสมดุลอย่างยอดเยี่ยม 

 


 

นอกจากนี้ ทางแบรนด์ The Singleton ยังได้แนะนำ Single Malt ด้วยกันถึง 3 รุ่น ในชื่อของ The Singleton of Dufftown ซึ่งผลิตจากโรงกลั่น Dufftown Distillery ของ Scotland นั่นเอง โดยมีด้วยกันทั้งหมด 3 รุ่นได้แก่

 
The Singleton 12 YO

| The Singleton Of Dufftown 12 Year Old


แต่เดิมนั้น The Singleton จะมีรุ่นที่อายุน้อยสุดที่ 8 ปี จนกระทั่งปี 1990 ได้ถูกแทนที่ด้วยรุ่น 12 ปี โดยรุ่นนี้เป็นรุ่นยอดนิยมของแบรนด์ ผลิตจากข้าวมอลต์บาร์เลย์ 100% มีสัดส่วนการบ่มของถังโอ๊คยุโรปที่มากกว่า ด้วยคาแรคเตอร์ที่นุ่มละมุน และได้รับการยกย่องจากเซียน Whisky เป็นอย่างมาก พร้อมทั้งราคาที่จับต้องได้ จึงเป็น Single Malt ที่เป็นมิตรกับนักดื่มมือใหม่ และการผสมเป็น Cocktail เป็นอย่างยิ่ง

ให้กลิ่นที่หอมหวานของมอลต์บาร์เลย์, ขนมปังปิ้งเนย, ฟางข้าว และวอลนัท แต่รสชาติเหมือนพลิกผ่ามือ ด้วยรสสัมผัสของเปลือกส้ม, โอ๊ค, ท็อฟฟี่, ถั่ว และหญ้าตัดสด ๆ

The Singleton 15 YO

| The Singleton Of Dufftown 15 Year Old


เป็นรุ่นที่ปล่อยออกสู่ตลาดสำหรับกลุ่มนักท่องเที่ยว ใช้สัดส่วนการบ่มของถังไม้โอ๊คยุโรปและอเมริกันที่เท่ากัน มีคาแรคเตอร์ที่จัดจ้านและหนักแน่น และหอมหวาน เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับจิล หรือ Sipping Single Malt

ด้วยกลิ่นของท็อฟฟี่, รังผึ้ง, แอปเปิ้ล และเมล็ดแฟลคซ์ ให้รสสัมผัสที่เต็มปากเต็มคำ นำมาด้วยความหวาน จบด้วยความ Dry พร้อมสัมผัสที่อบอุ่น, เบาบาง และนุ่มนวล

The Singleton 18 YO

| The Singleton Of Dufftown 18 Year Old


เป็นรุ่นที่มีสมดุลระหว่างความเข้มข้นและนุ่มนวลอย่างสมบูรณ์แบบ ถึงแม้จะมีอายุการบ่มถึง 18 ปี แต่ก็เป็นอีกรุ่นมีรสชาติเข้าถึงได้ง่าย เหมาะสำหรับการดื่มแบบ On the Rock หรือดื่มคู่กับ Dark Chocolate

เปิดด้วยความหวาน จบด้วยความ Dry มาพร้อมกับกลิ่นของไม้โอ๊ค, ผลไม้แห้งอย่างอินทผาลัม, ลูกเกด, เชอร์รี่ และแอปริคอต มาด้วยเครื่องเทศ, ดอกไม้ และข้าวมอลต์ มีรสชาติที่บางเบาของผลไม้แห้ง, ธัญพืช และวนิลาที่นุ่มนวล ปิดท้ายด้วยผลไม้สดที่รวมกันได้อย่างลงตัว

 
 

The Singleton 12 YO Whisky

ในกิจกรรม Masterclass เราเชื่อว่าอาจจะมีหลายคนที่เสียดายที่พลาดโอกาสไป แต่เรามีข่าวดีมาฝากเช่นกัน ว่า The Single Malt Masterclass นั้นกำลังจะจัดขึ้นอีกรอบ สำหรับลูกค้าของ LIQ9 มีสิทธิ์ได้ร่วมกิจกรรมนี้แน่นอน โดยสามารถติดตาม Update การเข้าร่วม Masterclass ครั้งได้ได้ที่หน้าเพจ Facebook >> liq9.asia กันได้เลย

และสำหรับผู้ที่สนใจ The Singleton of Dufftown ทั้ง 3 รุ่น ก็สามารถเข้ามาเลือกชมสินค้าได้ที่ LIQ9.ASIA เช่นเดียวกันเลยครับ